155/68 (IT) ประจำวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568

รายงานฉบับล่าสุดจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เผยให้เห็นภาพรวมของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ดำเนินกิจการศูนย์หลอกลวงออนไลน์ขนาดใหญ่ในลักษณะ “อุตสาหกรรมไซเบอร์” สร้างรายได้มหาศาลนับหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปีจากการหลอกลวงรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลงทุน (“Pig butchering”), การหลอกลวงให้รัก, และบริการ Phishing-as-a-Service ซึ่งรายได้เหล่านี้ถูกฟอกเงินผ่านเครือข่ายที่ซับซ้อน และแฝงตัวอยู่ในธุรกิจ เช่น คาสิโนและโรงแรม
องค์กรเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มแฮ็กเกอร์รายย่อย แต่เป็นเครือข่ายอาชญากรรมที่ดำเนินการในระดับโลก โดยมีการบังคับใช้แรงงานจากเหยื่อที่ถูกค้ามนุษย์ให้ทำงานในศูนย์หลอกลวงออนไลน์ ขายมัลแวร์ ข้อมูลที่ถูกขโมย และบริการอาชญากรรมไซเบอร์อื่น ๆ ควบคู่กับธุรกิจการพนันออนไลน์และแพลตฟอร์มการชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซี รายงานของ UNODC ระบุว่า ในปี 2023 เพียงปีเดียว การหลอกลวงทางไซเบอร์ในเอเชียตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้ สร้างความเสียหาย 18,000 ล้านถึง 37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ความเสียหายจาก “Pig butchering” และการหลอกลวงคริปโตอื่น ๆ สูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์
หนึ่งในตัวอย่างที่น่ากังวลคือ กลุ่ม “Vault Viper” ซึ่งมีฐานอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ ดำเนินธุรกิจคาสิโนและโรงแรมอย่างเปิดเผย แต่แฝงด้วยกิจกรรมผิดกฎหมายจำนวนมาก รวมถึงการค้ามนุษย์ การฟอกเงิน และอาชญากรรมไซเบอร์ และมีความเชื่อมโยงกับเครือข่าย “Vigorish Viper” และ “Suncity” ซึ่งเป็นองค์กร ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังอาณาจักรอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติขนาดใหญ่ UNODC เตือนว่า หากไม่จัดการกับระบบนิเวศแห่งอาชญากรรมไซเบอร์นี้อย่างจริงจัง จะเกิดผลกระทบระดับโลก เนื่องจากขบวนการเหล่านี้กำลังพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพิ่มประสิทธิภาพในการก่ออาชญากรรมไซเบอร์ และขยายฐานการปฏิบัติการจากเอเชียสู่ภูมิภาคอื่น เช่น แอฟริกา ยุโรปตะวันออก และหมู่เกาะแปซิฟิก
แหล่งข่าว https://www.darkreading.com/threat-intelligence/industrial-scale-asian-scam-centers