51/67 (IT) ประจำวันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567

ประธานาธิบดี Bora Tinub กล่าวว่าแม้ว่าประเทศไนจีเรียจะเป็นผู้ริเริ่มการหลอกลวง “Nigerian Prince” ที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ แต่ประเทศนี้ ก็ไม่ใช่ประเทศของอาชญากรรมทางไซเบอร์
ซึ่งอาชญากรรมทางไซเบอร์ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในไนจีเรีย และมีผลกระทบทางเศรษฐกิจสูงถึง 500 ล้านดอลลาร์ต่อปี โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วประธานาธิบดี Bora Tinub ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่ คณะกรรมการอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและการเงินของไนจีเรีย (EFCC) ว่า อาชญากรรมทางไซเบอร์ได้ทําลายชื่อเสียงของประเทศ แต่เขาเน้นว่านี่ไม่ใช่แค่ปัญหาของไนจีเรียเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม การฉ้อโกงและการโจมตีทางไซเบอร์ประเภทอื่น ๆ เป็นปรากฏการณ์ระดับโลกที่ต้องจัดการไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ซึ่งโลกปัจจุบันนี้ทำงานบนอินเทอร์เน็ตแบบเรียลไทม์ ทั้งเรื่องการเมืองการปกครอง ธุรกิจ สถาบัน และแม้กระทั่งกิจการภายในประเทศของแต่ละแห่งก็ล้วนพึ่งพาอินเทอร์เน็ต ดังนั้น อาชญากรไซเบอร์จึงเป็นภัยคุกคามต่อส่วนอื่น ๆ ของโลกด้วย นั่นคือเหตุผลที่จะต้องมีความพยายามในการต่อสู้กับความชั่วร้าย และสิ่งสำคัญคือต้องต่อสู้กับการรับรู้ภาพลักษณ์ของประเทศ ที่ว่าประเทศในทวีปแอฟริกาเป็น “ประเทศของผู้ฉ้อโกง” ซึ่งข้อกล่าวหานี้เป็นลักษณะที่เขาบอกว่า มันไม่ยุติธรรม ไม่เหมาะสม และยอมรับไม่ได้
ทั้งนี้ นาย Ola Olukoyede ประธานของ EFCC ยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับคนหนุ่มสาวที่มีบทบาทมากขึ้นในอาชญากรรมไซเบอร์ เขาเตือนถึง อันตรายของการมีผู้นำในอนาคต ซึ่งมีทัศนคติในชีวิตว่าการฉ้อโกงและการทุจริตเป็นบันไดสู่การมีชื่อเสียงและความร่ำรวย และเขาเชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหานี้คือการสนับสนุนให้คนหนุ่มสาวแสวงหาอาชีพสุจริตที่ใช้ทักษะเดียวกัน ซึ่งนักวิชาการสามารถมีส่วนร่วมมากขึ้นในการต่อต้านการทุจริตผ่านการให้คำปรึกษา เนื่องจากเยาวชนในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อนำทางไปสู่ความสำเร็จและการใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย
แหล่งข่าว https://www.darkreading.com/endpoint-security/nigerian-president-dismisses-cybercrime-haven-image