Microsoft เผยมีอุปกรณ์ Windows 8.5 ล้านเครื่อง ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ CrowdStrike และเผยแพร่เครื่องมือการกู้คืน

261/67 (IT) ประจำวันอังคารที่ 23 กรกฎาคม 2567

Microsoft เผยว่ามีอุปกรณ์ Windows ประมาณ 8.5 ล้านเครื่อง ได้รับผลกระทบจากการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ผิดพลาดของบริษัท CrowdStrike ซึ่งทำให้เกิดการหยุดให้บริการด้านไอทีครั้งใหญ่ทั่วโลกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้เมื่อวันเสาร์ Microsoft จึงได้เปิดตัวเครื่องมือ USB เพื่อใช้ในการช่วยให้ผู้ดูแลระบบไอทีสามารถเร่งกระบวนการซ่อมแซมสำหรับไคลเอนต์และเซิร์ฟเวอร์ Windows ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งในการใช้เครื่องมือนี้ผู้ใช้งานจะต้องมีไคลเอนต์ Windows 64 bit พร้อมพื้นที่ว่างอย่างน้อย 8 GB ซึ่งสามารถเรียกใช้เครื่องมือเพื่อสร้างไดรฟ์ USB ที่สามารถบูตได้ พร้อมด้วยสิทธิ์การดูแลระบบบนไคลเอนต์ Windows    

ถึงแม้ว่าจะมีเครื่อง Windows เพียงไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่ Microsoft กล่าวว่าได้ส่งวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญจำนวนหลายร้อยคนเพื่อทำงานร่วมกับลูกค้าโดยตรงเพื่อคืนค่าบริการ ปัญหาหลักคือการอัปเดตการกำหนดค่าเซ็นเซอร์ตามปกติที่ส่งไปยังระบบ Windows เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2024 เวลา 04:09 UTC ซึ่งก่อให้เกิดข้อผิดพลาดที่ส่งผลให้ระบบคอมพิวเตอร์สำคัญทั่วโลกต้องเข้าสู่โหมดหน้าจอสีน้ำเงิน Microsoft กล่าวว่า “แม้ว่าเปอร์เซ็นต์จะเล็กน้อย แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้างสะท้อนให้เห็นถึงการใช้ CrowdStrike โดยองค์กรต่างๆ ที่ดำเนินธุรกิจที่สำคัญหลายอย่าง” เหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งสื่อกระแสหลักบรรยายไว้ด้วยคำต่างๆ เช่น “ความโกลาหล” และ “ภัยพิบัติ” อาจกลายเป็นหนึ่งในความล้มเหลวทางไซเบอร์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ ในการอัปเดตเมื่อเช้าวันเสาร์ CrowdStrike ก็ได้ส่งการแจ้งเตือนทางเทคนิคพร้อมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวและขั้นตอนการแก้ไขที่องค์กรสามารถดำเนินการได้แล้ว

แหล่งข่าว https://www.securityweek.com/microsoft-says-8-5-million-windows-devices-impacted-by-crowdstrike-incident-publishes-recovery-tool/