เหตุการณ์ Cloudflare ล่ม ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลก

ยอดเข้าชม: 223 views

474/68 (IT) ประจำวันพุธที่ 19 พฤศจิกายน 2568

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ต้องเผชิญกับปัญหาไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมากได้ โดยต้นตอของปัญหาเกิดจาก Cloudflare ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่รองรับ Traffic ข้อมูลถึง 20% ของโลก ซึ่งทางด้าน Dane Knecht ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ Cloudflare ได้ออกมาชี้แจงว่าสาเหตุเกิดจากบั๊กที่ซ่อนอยู่ (Latent bug) ซึ่งถูกกระตุ้นให้ทำงานหลังจากมีการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าตามปกติในส่วนของบริการ Bot Mitigation ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดลุกลามไปทั่วเครือข่าย พร้อมยืนยันหนักแน่นว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ “ไม่ใช่การโจมตีทางไซเบอร์”

ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็วเนื่องจาก Cloudflare เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของเว็บไซต์นับล้าน โดยเว็บไซต์การให้บริการและแพลตฟอร์มชื่อดังต่างได้รับผลกระทบจนไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว อาทิ ChatGPT, Canva, Uber, Shopify, Discord, X (Twitter) รวมถึงบริการสตรีมมิ่งและเกมออนไลน์ต่าง ๆ แม้กระทั่ง Downdetector เว็บไซต์สำหรับรายงานเว็บล่มก็ยังประสบปัญหาในการใช้งาน เหตุการณ์นี้เน้นย้ำให้เห็นถึงความเปราะบางของโครงสร้างอินเทอร์เน็ตยุคปัจจุบันที่มีจุดตาย (Chokepoints) อยู่ที่ผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาเพียงจุดเดียวก็สามารถสร้างความเสียหายในวงกว้างได้ทันที

ล่าสุด Cloudflare ยืนยันว่าได้ดำเนินการแก้ไขและเชื่อว่าสถานการณ์ได้คลี่คลายแล้ว แต่ก็มีผู้ใช้งานบางส่วนอาจยังพบปัญหาที่ยังคงอยู่ เช่น การโหลดหน้าเว็บไซต์ช้า หรือการเข้าสู่ระบบไม่ได้ในบางช่วง ซึ่งเหตุการณ์นี้นับเป็นครั้งที่ 2 ในระยะเวลาสั้น ๆ ที่โครงสร้างพื้นฐานหลักของอินเทอร์เน็ตเกิดปัญหาใหญ่ ต่อจากกรณีของ AWS เมื่อเดือนก่อน ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีต่างออกมาแนะนำว่า องค์กรยุคใหม่จำเป็นต้องออกแบบระบบให้มีความยืดหยุ่น (Resilient-by-design) และลดการพึ่งพาผู้ให้บริการคลาวด์เพียงเจ้าเดียว พร้อมสร้างสถาปัตยกรรมที่สามารถสลับเส้นทางหรือแยกปัญหาได้ทันทีเมื่อตรวจพบเหตุขัดข้อง เพื่อป้องกันผลกระทบเป็นวงกว้างเช่นเหตุการณ์ครั้งนี้อีกในอนาคต

แหล่งข่าว https://hackread.com/cloudflare-outage-jolts-internet-who-was-hit/